วันนี้ได้มีโอกาสไปฟังฟอรั่มเกี่ยวกับการตลาดดาต้าจาก Speakers กูรูชื่อดังอย่างคุณหนุ่ย(เพจการตลาดวันละตอน), คุณแบงค์ (เพจ Content Shifu), คุณบี (เพจสโรจขบคิดการตลาด), คุณบุ๊ค (เพจ Data ภาษาคน) ที่งาน Amarin Expo ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลยได้เขียนสรุปมาแชร์เพื่อน ๆ ผู้อ่าน
เทรนด์และการเปลี่ยนแปลงหลัง Covid-19
คุณหนุ่ย: ธุรกิจพยายามใช้ดาต้ากันมากขึ้น เริ่มมองหาวิธีการใช้ดาต้า ซึ่งเป็น พื้นฐาน (fundamentals) ของการทำธุรกิจและการตลาด
คุณบี: โควิดเปลี่ยนอะไรไปหลายอย่างมาก มีการเปลี่ยนแปลงหลายมิติทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ จากเดิมผู้ใหญ่ที่ไม่เคยสั่งของออนไลน์และใช้งาน Online Wallet อย่าง เป๋าตัง ก็ใช้เป็น รวมทั้งเรื่องการยืนยันตัวตน (Keywords: NDID, KYC) ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หลายคนเข้าสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัว โดยผู้คนคาดหวังให้แบรนด์ต้องมีช่องทางดิจิทัลออนไลน์ เช่น สั่งของออนไลน์ จ่ายเงินออนไลน์ นอกจากนี้โควิดทำให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ดูว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็นหรือเปล่า จำเป็นต่อชีวิต หรือจำเป็นต่อจิตใจ ในช่วงที่ผ่านมาจะพบคนให้ความสำคัญต่อจิตใจมากขึ้น�อย่างเช่นไปร้านแฮงก์เอาต์อย่าง Izakaya (อิซากายะ) หรือไปชม Concert กันมากขึ้น ในมุมของธุรกิจเอง ธุรกิจเริ่มหันกลับมาโฟกัสในสิ่งที่มันไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนกัน จากแต่ก่อนที่มีการทำ Viral จ้าง Influencers ต่าง ๆ นานา แล้วมีการทำ Budget ไว้โดยคาดการณ์จากปีก่อน แต่ปัจจุบันทุกคนกลับมาทำสิ่ง งบประมาณฐานศูนย์ (Zero Based Budgeting) ไม่ได้อ้างอิงจากปีที่แล้ว เริ่มการคำนวนงบประมาณที่จะใช้มาตั้งแต่ 0 ใหม่เพื่อดูว่าอะไรที่สำคัญบ้าง และโฟกัสกับเรื่องของการขายและทำ Digital Experience มากขึ้น
คุณบุ๊ค: มี 4 มุมที่เกิดขึ้น (1) มุมแรก ลูกค้าแต่ละคนมีความแตกต่างกันมากขึ้น มีความเป็น Personalized มากขึ้น (2) มุมที่สอง เรื่องของพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนในการซื้อสินค้าเราอย่างทีวี เราอาจต้องไปดูของจริง แต่ตอนนี้พฤติกรรมเปลี่ยน แม้เราไม่เห็นสินค้าจริง เราก็สั่งซื้อออนไลน์ได้ (3) คู่แข่งก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนเราเก็บข้อมูลบนเครื่องเซิฟเวอร์ที่บริษัท (on premise) ทำให้เข้าถึงได้แค่ที่บริษัท แต่ปัจจุบันใช้บนคลาวด์ (on cloud) กันมากขึ้นทำให้เข้าถึงได้ทุกที่ และมุมสุดท้าย (4) ทรัพยากรมีอย่างจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงิน หรือคน
คุณแบงค์: จากรายงานสถิติเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ MarTech ในประเทศไทยพบว่าในแต่ละองค์กรมีการใช้เครื่องมือที่มากขึ้นจากปัจจุบันใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 11 ตัว แต่ในปีนี้วางแผนใช้เฉลี่ย 17 ตัว เนื่องจากมีการทำงานออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีช่วยเรื่องการสื่อสารมากขึ้น
แนะนำเครื่องมือ AI ที่เข้ามาช่วยด้านการตลาด
คุณหนุ่ย: แนะนำเครื่องมือ ChatGPT ซึ่งเป็น AI ประเภท Generative AI ที่ช่วยสร้างสร้างเนื้อหา สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนถ้าจะรีทัชภาพ เราต้องจ้างคนทำ แต่ตอนนี้เราใช้แค่ prompt command ก็ทำได้แล้ว ซึ่งทำให้ 1 คนจะทำงานได้หลากหลายอย่างมากขึ้น ซึ่งนั้นก็อาจจะทำให้มีคู่แข่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องเก่งหรือเชี่ยวชาญมากขึ้น
คุณบี: ต้องเข้าใจก่อนว่าจริง ๆ แล้ว AI กินข้อมูลเป็นอาหาร โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาช่วยงานที่เราต้องทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ เป็น Pattern ซึ่งถ้าเรางานที่ทำซ้ำ ๆ เดิมและมีข้อมูล เราก็สามารถมี AI เป็นของตัวเองได้ ซึ่งเครื่องมือที่อยากแนะนำคือ Creatopy เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างรูป ทำโฆษณา ออกแบบ Ads โฆษณาโดยสามารถ Resize ลงแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้รวมทั้งสามารถทำ Ads Automate ได้ซึ่งเหมาะกับธุรกิจ SME นอกจากนี้เครื่องมืออีกตัวที่น่าสนใจคือพวก AI Cover ที่ใช้ AI ช่วยเปลี่ยนเสียงเรา หรือเสียงร้องเพลงอื่น ๆ เป็นเสียงคนอื่นได้ อย่าง https://create.musicfy.lol, https://www.voicify.ai
คุณบุ๊ค: ในอนาคต AI จะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเครื่องมือที่อยากจะมาแชร์คือ Synthesia เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างวิดีโอพูดตามบทที่เราเขียนไปให้ (สำหรับใครที่ไม่อยากพูดเอง) รองรับมากกว่า 120 ภาษา หรือเครื่องมือช่วยคิด Slide อย่าง Tome ที่ช่วยคิดและสร้างสรรค์ Slide ตามหัวข้อที่เรากำหนดให้ได้ ทำให้ทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น
ซึ่งเร็ว ๆ นี้ Microsoft Copilot ที่เป็น AI ผู้ช่วยในแอป Microsoft 365 ได้มีการนำเข้าไปใช้ใน Microsoft Power BI เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการเข้าไปหรือถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลเข้าไป AI ก็จะสร้าง Dashboard ขึ้นมาให้ทันที
ช่วงแนะนำหนังสือ
- หนังสือ “Unique Selling Point ลูกค้าจำได้ ซื้อซ้ำ แค่ย้ำจุดขายเดียว” — เขียนโดยคุณบี (สโรจ เลาหศิริ ) ทุกคนเปิดร้าน ทำการตลาด แต่สิ่งที่เจอคือ เรามีของที่เหมือนคนอื่น มันคือจุดขายเฉพาะจริงหรอ หลายครั้งที่เราอาจจะเข้าใจผิดว่ามันคือจุดขายที่แตกต่าง
- หนังสือ “Seamless marketing การสื่อสารไร้รอยต่อ” — เขียนโดยคุณบี (สโรจ เลาหศิริ ) หลาย Product ฟังแล้วน่าซื้อแต่ทำไมขายไม่ดี เพราะเขาอาจจะสื่อสารคุณค่าไปไม่ถึงลูกค้า ทำอย่างไรที่จะสื่อสารไปหาลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ
- หนังสือ “Social Listening การตลาดแบบฉลาดฟังเสียงลูกค้า” — เขียนโดย คุณหนุ่ย (ณัฐพล ม่วงทำ) ในเล่มจะเล่าถึงเครื่องมือ Social listening พร้อมวิธีการแบบ how to สอนใช้งาน มีเวิร์กช็อปให้ลงมือทำจริง เสมือนได้เรียนคอร์สสด โดยเน้นไปที่ methodology สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเครื่องมือ
- หนังสือ “Data Decision Making ตัดสินใจไม่พลาด มองเฉียบขาดด้วยดาต้า” — เขียนโดยคุณบุ๊ค (ปฐมภัทร คำตา) จะพูดถึงการตัดสินใจด้วยข้อมูลว่าทำได้อย่างไร โดยเน้นไปที่กรณีศึกษา
- หนังสือ “How to Grow Your Service Business: Up ธุรกิจให้โตขึ้น 8 หลัก” — โดยคุณแบงค์ (สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์) แนะนำวิธีการที่จะช่วยให้คุณทำให้ธุรกิจบริการ เติบโตขึ้นจากขนาดเล็กๆ ให้สามารถมีรายได้อยู่ในระดับ 8 หลัก หรือยอดขายเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีทั้งเรื่องการตลาด การบริหารทีม การขาย กฎหมาย
