ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นถี่และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือฝุ่น PM2.5 ที่กลายเป็นภัยเงียบ แต่ส่งผลต่อสุขภาพในวงกว้าง และล่าสุด แผ่นดินไหวที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้สึกได้พร้อมกัน ซึ่งเห็นได้ว่า “ภัยพิบัติ” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
คำถามคือ…เราพร้อมแค่ไหน?
เพราะในความเป็นจริงแม้หลายเมืองจะพยายามปรับตัว แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด สิ่งเดียวที่จะช่วยเพิ่ม Productivity ในการป้องกันและรับมือได้ คือ เทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ
บทความนี้เลยอยากชวนทุกคนมารู้จักเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เมืองของเราอยู่รอด…และน่าอยู่ขึ้นในทุกวัน จากทั้งภาครัฐและเอกชน
เครื่องมือ
Risk Map แผนที่เสี่ยงภัยกรุงเทพ
เครื่องมือแผนที่ออนไลน์จากกรุงเทพที่รวมข้อมูลพื้นที่เสี่ยงด้านความปลอดภัยทั้ง 9 มิติไว้ในที่เดียว ให้ประชาชน หน่วยงาน และอาสาสมัครใช้ในการรับมือและป้องกันภัยพิบัติได้ทันเวลา
- ดูพื้นที่เสี่ยง เช่น จุดเสี่ยงน้ำท่วมบ่อย จุดเสี่ยงไฟไหม้ จุดมืด จุดเปลี่ยว
- หาทรัพยากรช่วยเหลือใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นถังดับเพลิงสาธารณะ จุดอพยพ หรือที่โล่งสำหรับหลบภัย
- ข้อมูลมาจากการสำรวจและเก็บข้อมูลในพื้นที่ เพื่อวางแผนรับมือจากหน่วยงาน
ใช้งาน Risk Map ได้ที่ 👉 https://cpudgiportal.bangkok.go.th/
3D GISTDA Website
เว็บไซต์บริการแผนที่ออนไลน์ (Map API) ให้ข้อมูลพื้นที่ฐานของอาคารและสิ่งก่อสร้าง ด้วยเทคโนโลยีจำลองเมือง 3 มิติ
- Urban Heat Island การแสดงผลข้อมูลเกาะความร้อน ที่มีการแสดงค่าดัชนี UHI (ค่าดัชนีเกาะความร้อน) แสดงความอุ่นถึงร้อนตามการไล่สี
- เครื่องมือมุมมองคนเดินเท้า (Street View) พร้อมแสดงรูปภาพและทิศทางมุมมองบนพื้นที่
ใช้ 3D GISTDA ได้ที่ 👉 https://3d.gistda.or.th
ดาวเทียม
ประเทศไทยเรามีดาวเทียมที่ล้ำสมัยมาก เห็นวัตถุทุกอย่างตั้งแต่มีขนาด 50cm ซึ่งมีแค่บางประเทศเท่านั้นที่มีดาวเทียมแบบนี้ โดยปัจจุบันไทยเรามีดาวเทียม 3 ดวง THAICHOTE, THEOS-2,THEOS-2A (ยังอยู่ห้องแล็ป เห็นเป็นวิดีโอ) ทำให้เห็นภาพพื้นดินได้กว้าง เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง เหมือนดวงตาที่คอยติดตาม เฝ้าระวัง แล้วสามารถพยากรณ์ไปข้างหน้าได้ จากสิ่งที่เราเห็นบ่อยๆ
ซึ่งถ้าเราใช้โดรนในการเก็บพื้นที่กว้าง กว่าจะเก็บพื้นที่ได้หมดอาจจะใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะเจออุปสรรคอย่างสภาพอากาศได้
Usecase (Data to Decision)
รับมือภัยน้ำท่วม/ภัยแล้ง
- เครื่องมือที่วัด Radar น้ำฝน/ระบบมาตรวัดระดับน้ำในคลอง (กทม.)
- ดาวเทียมจาก GISTDA ที่สามารถเห็นได้ว่าพื้นที่ไหนน้ำท่วมหรือเกิดภัยแล้งและนำมาคาดคะเนได้ว่าจะท่วมขังอยู่นานแค่ไหน
เพราะคนไม่ได้อยากรู้ว่าน้ำท่วมหรือเปล่าเพราะรู้อยู่แล้วว่าพื้นที่นี้น้ำท่วม แต่ 80% ของคนอยากรู้ว่าน้ำท่วมจะมาเมื่อไหร่ และนานแค่ไหน จะได้ตัดสินใจและบริหารตัวเองได้ว่าควรอพยบไหม ถ้าท่วม 1-2 วันก็อาจอยู่ต่อ
รับมือภัยแผ่นดินไหว
เครื่องวัดความสั่นไหวแผ่นดินไหวบนตึกของทางกทม. (ปัจจุบันติดตั้งที่ตึกกทม.2) และกำลังแพลนขยายผลไปติดตั้งที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะได้มีข้อมูลตัดสินใจว่าจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้ทันท่วงที
รับมือเรื่องความปลอดภัย
ตัวอย่างกรณีศึกษาของ One Bangkok มีการติดตั้งกล้องกว่า 5000 จุดในพื้นที่เกือบ 2 ล้านตร.ม. ซึ่งอุปกรณ์มี AI สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หรือต้องสงสัย แล้วจะส่งไปที่ระบบควบคุมส่วนกลางในการควบคุมตัดสินใจในการรับมือสถานการณ์ต่างๆ เพราะเราไม่สามารถนำคน 1 คนมาดูกล้องทุกตัวได้
‘ข้อมูล’ คือหัวใจของการตัดสินใจรับมือภัยพิบัติ
เพราะในสถานการณ์ภัยพิบัติแบบนี้ ยิ่งได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเร็ว ก็จะยิ่งทำให้ตัดสินใจเพื่อวางแผนรับมือได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
สรุปเนื้อหาจาก Session สร้างเมือง ‘อยู่ดี’ ให้ ‘อยู่รอด’ ปลอดภัย Building Resilient City จากงาน SPOTLIGHT “Creating Sustainable City สร้างเมืองยั่งยืน เพื่อชีวิตยืนยาว” โดย
- คุณวิฑูรย์ อภิสิทธิ์ภูวกุล จาก สำนักงานยุทธศาสตร์และประเมินผลกรุงเทพมหานคร
- คุณณัฐนี วิโรจน์โภคา จาก One Bangkok
- ดร.สยาม ลววิโรจน์วงศ์ จาก GISTDA
เขียนโดย Namon
เรียบเรียงโดย Safesnapp